เมื่อนึกถึงอาหารญี่ปุ่น เมนูที่หลายคนโปรดปรานคงหนีไม่พ้น ปลาและอาหารทะเลสดๆ ด้วยความที่เป็นประเทศที่ล้อมรอบด้วยทะเล จึงหาอาหารทะเลที่มีความสดใหม่มารับประทานได้ไม่ยาก และสิ่งสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นเป็นเจ้าตำรับแห่งการรังสรรค์เมนูปลาและอาหารทะเลให้สามารถดึงรสชาติออกมาให้อร่อยล้ำก็คือความสดใหม่ของวัตถุดิบ และการจัดเตรียมวัตถุดิบตามฤดูกาล
ในช่วงที่เรายังเดินทางข้ามประเทศไม่ได้ สำหรับนักชิมแดนไกลที่อยากจะลองทานวัตถุดิบดีๆ จากแหล่ง ก็ไม่ต้องไปเยือนถึงถิ่นก็ฟินกับรสชาติในแบบฉบับต้นตำรับได้ เพราะเราได้ทำการรวบรวมร้านอาหารญี่ปุ่นในเชียงใหม่ที่คอยเสิร์ฟความสดใหม่ของกองทัพปลาทะเลจากแดนอาทิตย์อุทัยมาให้สำราญกันถึงโต๊ะอาหาร
Nanohana Japanese Restaurant
ลิ้มรสชาติความสดใหม่จากแดนอาทิตย์อุทัย ณ ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโอมากาเสะ ปิ้งย่าง หรือชาบู Nanohana Japanese Restaurant มีให้ครบ จบในที่เดียว
—
ญี่ปุ่น นับว่าเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมการกินดื่มที่หลากหลาย ทั้งโอมากาเสะ ปิ้งย่างยากินิกุ การสังสรรค์อย่างอิซากายะ หรือหม้อไฟชาบูชาบู และร้านอาหารญี่ปุ่นนาโนฮานะ จะนำพาเราไปเปิดทุกประสบการณ์ลิ้มรสอาหารจากแดนอาทิตย์อุทัยในทุกรูปแบบ ที่มาพร้อมวัฒนธรรมการกินดื่มของชาวญี่ปุ่นที่มีความประณีตและพิถีพิถันในทุกจาน ที่เชฟได้นำเสนอผ่านวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมนำเข้า ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบโอมากาเสะ 16 คอร์ส ที่ประกอบด้วยเมนูซิกเนเจอร์ 2 คอร์สใหญ่ที่เชฟสร้างสรรค์ขึ้นในแต่ละวัน นิกิริซูชิ หรือข้าวปั้นหน้าเนื้อและปลาดิบ 10 คอร์ส ตัดเลี่ยนระหว่างคอร์สด้วยซุปและของหวาน เลือกอร่อยได้ในราคา 1,299 บาท, 1,699 บาท และ 2,999 บาทต่อท่าน แตกต่างกันไปตามการเลือกใช้วัตถุดิบ ซึ่งคอร์สโอมากาเสะของที่นี่จะเสิร์ฟเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ วันละ 2 รอบ (6 โมงเย็นและ 2 ทุ่ม) รอบละ 6 ที่นั่ง แนะนำว่าให้จองล่วงหน้า บางคอร์สอาจเปลี่ยนไปในแต่ละครั้งที่มา ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในช่วงเวลานั้นๆ ที่เชฟจะเป็นผู้คัดสรร แต่สิ่งที่ยังคงไว้คือความสดใหม่ เทคนิคการปรุง การร้อยเรียงเรื่องราวและรสชาติ เรื่อยไปจนถึงรูปแบบการนำเสนอ เช่นกันกับเมนูอะลาคาร์ต ที่นำเสนอรสชาติมราหลากหลายพร้อมกับความสดใหม่อย่างจานซาซิมิ ที่รวมเนื้อปลาดิบ 8 ชนิดมาไว้ในจานเดียว ซึ่งเนื้อปลาที่นำมาเสิร์ฟอาจเปลี่ยนไปตามฤดูกาล
อยากทานจานเดียวง่ายๆ ที่นี่ก็มีข้าวผัดที่ใช้ข้าวสวยญี่ปุ่นเม็ดนุ่มฟู, เมนูอุนิหรือไข่หอยเม่นก็สด ฉ่ำ ไม่เหม็นคาว, ซดน้ำซุปร้อนๆ กับเมนูอุด้งเนื้อโคขุนเคี้ยวละลายในปาก หรือว่าจะรับเมนูข้าวปั้น ก็ฟินครบเซ็ตกับ 8 ชิ้นคำโต
อีกหนึ่งทีเด็ดที่สายเนื้อไม่ควรพลาดก็คือเนื้อวัวมิยาซากิ เนื้อวากิวเกรดพรีเมียม เนื้ออ่อนนุ่ม ความพิเศษคือมีไขมันแทรกกระจายตัวเป็นลวดลายคล้ายหินอ่อน รสสัมผัสนุ่มละลายในปาก กลิ่นหอมเต็มรสชาติของเนื้อ อร่อยได้ทั้งในแบบปิ้งบนเตาถ่าน หรือว่าในหม้อชาบู นอกจากเนื้อมิยาซากิแล้ว ยังมีตัวเลือกให้ได้ฟินกันไปยาวๆ กับชุดเนื้อไทยโคขุน และชุดเนื้อหมูโคจิบูตะ ที่รสชาติไปได้สุดกับซุปน้ำดำและซุปน้ำใส ครบทุกความอร่อยในที่เดียว คงความสดใหม่ในแบบที่ไม่ต้องไปเยือนถึงถิ่น
จะปิดท้ายมือด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ ซักแก้ว นาโนะฮานะก็พร้อมเสิร์ฟให้สดชื่นกันกับรสชาติที่หลากหลายในทุกช่วงเวลา
Nanohana Japanese Restaurant
ตั้งอยู่ริมถนนพระปกเกล้า ศรีภูมิ พื้นที่ด้านหน้าโรงแรม Chala Number 6
เปิดทุกวัน 11.00 น. – 22.00 น.
โทร. 085-564-2649, 093-140-7666
Uchi Japanese Gastro Bar
รสชาติแห่งแดนอาทิตย์อุทัย ที่ไม่ไกลเกินเอื้อม
เพราะ Uchi ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า”บ้านเรา” ที่นี่จึงมาพร้อมบรรยากาศอันอบอุ่น ให้เราได้เข้ามาแวะพัก ทิ้งความเหน็ดเหนื่อย แล้วเพลิดเพลินไปกับอาหารญี่ปุ่นมื้ออร่อย ในรูปแบบ Gastro Bar ที่พร้อมสรรพทั้้งอาหารและเครื่องดื่มสารพัดรูปแบบ รสชาติของอาหารผสานกับบรรยากาศสบายๆ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งทานอาหารในบ้านไม้หลังน้อยในประเทศญี่ปุ่นยังไงยังงั้น ทั้งวัตถุดิบเกรดคุณภาพที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากญี่ปุ่น ยังคงความสดใหม่ ราวกับได้ไปทานถึงถิ่น
เรียกน้ำย่อยกันก่อนเลยที่จานหอยเซลล์ฮอกไกโดคาร์ปาชิโอ หอยเซลล์สไลด์บาง จัดเรียงสวยมาบนจาน ท็อปด้วยวาซาบิดอง ไข่ปลาแซลมอน และซอสเจลลี่พอนสึ เคี้ยวกรุบได้รสชาติจี๊ดของวาซาบิเคล้ารสหอมมันของไข่ปลาแซลมอลแบบระเบิดในปากเม็ดต่อเม็ด เสริมรสชาติเปรี้ยวหวานด้วยซอสเจลลี่พอนสึ อร่อยครบทุกรสในหนึ่งคำ
เนื้อสันนอกซากะวากิวมินิยากิ จานที่สายเนื้อจะต้องร้องว้าวให้กับความฉ่ำนุ่มของเนื้อสันนอกเกรด A4 จากเมืองซากะ ที่นำมาหั่นเป็นลูกเต๋าขนาดพอดีคำ เตรียมให้คีบย่างบนถ่านหินชาร์โคล จิ้มเกลือหิมาลายันนิดๆ ก่อนนำเข้าปาก ก็จะได้รสชาติหอมเค็มกลมกล่อมผสานรสสัมผัสที่ฉ่ำนุ่ม ละลายในปาก
ชูโทโร่ทาทาเระเป็นอีกเมนูที่ต้องลอง ชูโทโร่เป็นเนื้อส่วนท้องของปลาทูน่า เนื้อจะเป็นสีชมพูเข้ม มีไขมันสีขาวที่แทรกอยู่ตามเนื้อ จึงมีความแน่นเด้ง มีรสหวานผสานความนุ่มของไขมัน เสิร์ฟมาในรูปแบบทาร์ทาร์ เคียงคู่มากับไข่ปลาแซลมอน และอูนิ ที่ท็อปด้วยวาซาบิดอง และไข่ปูโทบิโกะสีดำเม็ดเล็กๆ เคี้ยวกรุบๆ รสเค็มนิดๆ เวลาทานก็ให้ตักทาร์ทาร์ลงบนแผ่นสาหร่าย แล้วห่อก่อนนำเข้าปาก ยกให้เป็นอีกเมนูที่ทานสนุกในทุกคำ เพิ่มรสสัมผัสได้กับหนังปลาแซลมอนเคี้ยวกรอบที่เสิร์ฟเคียง
อีกจานคับคุณภาพก็คือซูชิวากิวซอสฟัวกราส์น้ำมันทรัฟเฟิล เนื้อวากิวเกรดพรีเมี่ยมนำเข้า สไลด์บาง ปรุงรสด้วยซอสฟัวกราส์และน้ำมันทรัฟเฟิล รับประกันความฉ่ำ รสสัมผีสละมุนลิ้นละลายในปาก กลิ่นหอมกลมกล่อมขึ้นจมูก งานดีจนสายเนื้อต้องศิโรราบ
เมนูทานเพลินอย่างชีสย่างเสิร์ฟมาพร้อมกับสาหร่าย ถั่วลันเตา ลูกเกด ซึ่งมอสซาเรลล่าและเชดด้าชีสจะเสิร์ฟมาเป็นแผ่นบางๆ วางซ้อนกัน เวลาทานก็วางสาหร่ายแผ่นบางบนเตา จากนั้นก็วางชีสทับลงไป แล้วโรยถั่วและลูกเกด รอให้ชีสค่อยๆ ละลาย ก็เป็นอันทานได้ เคี้ยวหนึบหนับอร่อยเพลิน บอกเลยว่าต้องลองสั่งมาชิมดู
มาสัมผัสช่วงเวลาแห่งความสุข และความอบอุ่นกันที่ Uchi Japanese Gastro Bar ที่เปิดบ้านต้อนรับผู้มาเยือนพร้อมความอร่อยอยู่ทุกโมงยาม
Uchi Japanese Gastro Bar
Punna Residences Nimmanhaemin soi 6
11.00am – midnight Phone 06-4896-6196
Line @UchiBar https://lin.ee/jZZfgYN
The Good View 69 Sushi Bar & Bistro
เดินแค่หกก้าว ก็เทียบท่าเมืองโตเกียว ไม่ต้องไปไกลถึงแดนปลาดิบ ก็สุดฟินได้กับอาหารญี่ปุ่นหลากเมนู เพราะที่ The Good View Village หมู่บ้านแห่งความอร่อยและความบันเทิง ได้ทำการแต่งแต้มสีสันยามเย็น ด้วยการเปิดบ้านหลังใหม่ใกล้เรือนเคียง ภายใต้ชื่อ The Good View 69 Sushi Bar&Bistro ร้านอาหารแห่งใหม่ในครอบครัว Good View ที่คอยเสิร์ฟเมนูอร่อยๆ เช่นเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือบรรยากาศของความสนุกสนาน ที่มาพร้อมกับกลิ่นอายของแดนอาทิตย์อุทัย ให้เรานั่งเพลิดเพลินกับเมนูอาหารญี่ปุ่นกว่า 100 รายการ ในราคาจานละ 69 บาททุกเมนู ไม่ว่าจะเป็นซาชิมิ ข้าวปั้น โซบะ ราเมน ข้าวหน้าต่างๆ และเครื่องดื่มอีกสารพัด ทานเพลินเคล้าเสียงเพลงสนุกๆ กันได้ตั้งแต่ห้าโมงเย็น ยาวไปจนถึงเที่ยงคืน
404 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
เปิดทุกวัน: 17.00 น. – เที่ยงคืน
โทร. 053-904406-8, 090-3208938
Facebook: Goodview69sushi
Line ID:@goodviewvillage
ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดจาก Thailand Tatler มายาวนานกว่าทศวรรษ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ในเห็นถึงคุณภาพของอาหารและการบริการที่ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง และในฐานะที่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับ Tengoku de Cuisine ก็หมั่นเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ ที่เสิร์ฟด้วยวัตถุดิบสดใหม่ที่คัดสรรมาอย่างดีและผ่านกรรมวิธีการทำอันแสนพิถีพิถัน
จานไฮไลท์ที่ต้องลองก็คือมะเขือม่วงราดซอส นับเป็นเมนูเก่าแก่ของชาวเกียวโตที่มีมานานกว่า 120 ปี ความพิเศษอยู่ที่เนื้อมะเขือม่วงชุ่มฉ่ำไม่อมน้ำมัน โรยด้วยงาขาวและซอสมิโซะกลิ่นหอมอ่อนๆ
เมนูเนื้อทาทากิ นับอีกจานที่สายเนื้อไม่ควรพลาด พื้นฐานของเมนูเนื้อทาทากิมาจากเนื้อม้า ซึ่งเป็นอาหารจานโปรดของชาวญี่ปุ่น ซึ่ง Tengoku De Cuisine ได้ปรับเปลี่ยนเป็นเนื้อวัวส่วนเชอร์ลอยด์ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำซอสพอนสึ ที่มีส่วนผสมระหว่าง น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์วีนีการ์ โซยุ เหล้ามิริน และน้ำมะนาว เมื่อเริ่มรับประทานให้ใส่กระเทียมขูดผสมลงไปแล้วนำเนื้อวัวแช่สักพักก่อนรับประทาน
Tengoku มีทั้งหมด 3 สาขา ซึ่งแต่ละที่มอบบรรยากาศและประสบการณ์การทานอาหารญี่ปุ่นที่แตกต่างกัน Tengoku de Cuisine ตั้งอยู่ในย่านนิมมานเหมินท์มาในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและเป็นกันเอง เพลิดเพลินกับจานอร่อยได้ทั้งแบบ a la carte และเต็มอิ่มได้บุฟเฟ่ต์ หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศมาที่ Tengoku + Yaki สาขาดั้งเดิมที่ท่าศาลา และเทนโกกุสาขาล่าสุดในอำเภอแม่ออน ที่โอบล้อมด้วยภูเขาลูกน้อยใหญ่ มีสวนผักที่ปลูกแบบธรรมชาติ และห้องพักสไตล์ไทยโบราณผสมผสานกับกลิ่นอายญี่ปุ่นอันแสนอบอุ่น อันเป็นสถานที่ที่ได้เพลิดเพลินกับอาหารมื้ออร่อยไปพร้อมๆ กับชมวิวได้ทุกที่
เวลาเปิดปิด 11.00 น. – 14.00 น. และ 17.30 น. – 22.00 น.
สาขานิมมานเหมินท์: โทร. 087 725 9888, 053 215 801
สาขาท่าศาลา: โทร. 053 850 111
สาขาสันกำแพง: โทร. 081 885 5959